อาจทำให้คุณต้องพบกับไตเสื่อม ไตวาย โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือแม้แต่ความดันโลหิตสูง ซึ่งแต่ละอย่างที่ว่ามาดูจะสยองขวัญสั่นประสาทเสียเหลือเกิน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ยังมีวิธีการป้องกันและรักษาที่ไม่ยาก เพียงรู้จักทานให้ถูกต้องก็สามารถสยบโรคเบาหวานได้
บรรดาหมอและพยาบาล มักกล่าวไว้ว่า หากคุณไม่ต้องการเป็นเบาหวาน ก็ต้องประพฤติตัวเหมือนเป็นโรคเบาหวานแล้วเพราะว่าการเป็นเบาหวานนั้น เกิดจากร่างกายของเราเริ่มเสื่อมสภาพ ทั้งมีความผิดปกติของการนำน้ำตาล ซึ่งเป็นพลังงานหลักของร่างกายไปใช้ น้ำตาลในเลือดจึงตกค้างและมีระดับสูงขึ้น ทางที่ดีที่สุดในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดคือ กระตุ้นให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานเพิ่มขึ้นและลดการรับประทานอาหารที่เป็นสาเหตุของน้ำตาลในเลือดสูง

ปัจจุบันคนไทยรับกระแสการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนมาก ทั้งกระแสอาหารฟาสฟู้ด (ซึ่งเข้ามาได้หลายสิบปีแล้ว) และระยะนี้กระแสอาหาร "ตักไม่หยุดจนกว่าจะหมดแรง" หรือบุฟเฟต์ก็เริ่มมาแรงมากขึ้น จนทำให้ใครหลายคน (อาจรวมทั้งคุณเองด้วย) สนใจที่จะหาโอกาสไปรับประทาน มากกว่าหาโอกาสจะควบคุม ฉะนั้น เราควรมีหลักการเลือกและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่ามื้อนั้นจะเป็นอาหารบุฟเฟต์หรือฟาสต์ฟู้ดก็ตาม


ทั้งนี้ กรมอนามัยได้มีการแนะนำหลักการเลือกรับประทานอาหารทานให้เราได้ปฏิบัติตามกัน ซึ่งเรียกง่ายๆ ว่า จานอาหารเพื่อสุขภาพ (Food Plate Model) ซึ่งมีแนวทางการปฏิบัติง่ายๆ ดังนี้
- แบ่งจานอาหารออกเป็น 4 ส่วนเท่าๆ กัน ผ่านจุดศูนย์กลางจาน
- ผักชนิดต่างๆ ควรมีปริมาณ 2 ใน 4 ส่วนของจาน
- ข้าว แป้งต่างๆ ควรมีปริมาณ 1 ใน 4 ส่วนของจาน
- เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ถั่วเมล็ดแห้ง ควรมีปริมาณ 1 ใน 4 ส่วนของจาน

ประเภทแหล่งอาหารที่แนะนำ คือ
ผัก ผักสด ผักสุกได้ทุกชนิด เช่น กะหล่ำปลี แตงกวา บร๊อคโคลี่ ผักกาดหอม มะเขือเทศ คะน้า ตำลึง ถั่วพู ผักกาดขาว ผักบุ้งยกเว้น ผักที่มีแป้งเยอะ เช่น ฟักทอง ข้าวโพด นับเป็นข้าวแป้ง
ข้าว แป้งข้าวไม่ขัดสี ขนมจีน เส้นหมี่ ขนมปังโฮลวีท ธัญพืช ลูกเดือย

เนื้อสัตว์  เนื้อสัตว์ไม่ติดหนังไม่ติดมัน ปลา อาหารทะเล ไข่ เต้าหู้ ถั่วเหลือง

ในส่วนของอาหารกลุ่มไขมัน ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทอดหรือผัด โดยใช้น้ำมันปริมาณมากในการประกอบอาหาร และควรเลือกใช้น้ำมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง เพราะจะส่งผลเสียน้อยกว่าการใช้น้ำมันหมูหรือน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัว ที่สำคัญควรเลือกรับประทานปลา เนื่องจากมีไขมันโอเมกา 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ดีอยู่มาก

นอกจากนี้ ควรมีการดื่มนมหรือรับประทานผลิตภัณฑ์จากนม เพื่อเป็นการเสริมแคลเซียม และทานผลไม้รสไม่หวานจัดในปริมาณที่เหมาะสม เช่น แอปเปิ้ล 1 ลูก ส้ม 2 ลูกกลาง มะละกอ แก้วมังกรหรือสับปะรด 6 ชิ้นคำ เป็นต้น เพื่อเสริมแร่ธาตุและวิตามิน


สุดท้ายนี้ คุณๆ ควรมีแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าก่อน เช่น ทานบุฟเฟต์ก็เลือกทานผักสดหรือสุกตามชอบ เนื้อล้วนย่างหรือต้ม ข้าวผัดกระเทียม 1 ถ้วย ก็เพียงพอ ปิดท้ายด้วยผลไม้เล็กน้อยก็ถือว่ามื้อนี้ครบถ้วนแล้วลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.infoติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน
ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info